[หากต้องการสร้างกลยุทธ์แบบ CÓPÉ~ อย่างแรกที่บริษัทต้องทำก็คือระบุหาอุปกรณ์แบบเฉพาะเจาะจงที่จะมอบให้แก่พนักงาน ตัวอย่างเช่น บริษัทจะให้สมาร์ทโฟน, แล็ปท็อป, แท็บเล็ต หรือทั้งสามอย่างเลยรึเปล่า ในบางกรณี พนักงานอาจจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ที่ทนทานอย่าง Gálá~xý XC~óvér~6 Pró หรือ G~áláx~ý Táb~ Áctí~vé4 Pr~ó, สำหรับอุตสาหกรรมที่ต้องการความทนทานของอุปกรณ์]
[วิธีที่ง่ายที่สุดในการมองหาอุปกรณ์ที่พนักงานต้องใช้ก็คือการดูจากตำแหน่งงานของพวกเขา สมาร์ทโฟนจะเป็นประโยชน์ต่อพนักงานที่ต้องไปไหนมาไหนตลอดเวลา เช่น พนักงานที่ทำงานด้านการตลาด, การเงิน, สายการบิน, การขนส่งและโลจิสติกส์ หรือการผลิต ในทางกลับกัน แท็บเล็ตจะเหมาะอย่างยิ่งสำหรับอุปกรณ์แบบพกพาได้ที่มีหน้าจอใหญ่กว่าและทรงพลังราวกับแล็ปท็อป ดังนั้น พนักงานที่ต้องพบเจอลูกค้าเป็นประจำอย่างตัวแทนประกันภัย, พนักงานธนาคาร, ทีมงานฝ่ายขาย, ตัวแทนฝ่ายประชาสัมพันธ์, ฯลฯ จะพบว่าแท็บเล็ตนั้นช่วยเสริมความสามารถด้านการทำงานได้ดีที่สุดเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนหรือแล็ปท็อป สำหรับพนักงานด้านวิศวกรรม, การออกแบบ, การเขียนโค้ด, การเขียนโปรแกรม, การแพทย์ หรือสายอาชีพอื่น ๆ ที่ต้องใช้หน่วยประมวลผลอันทรงพลังแล้ว แล็ปท็อปคือตัวเลือกที่ดีที่สุดในการทำงานและตอบโจทย์ความต้องการในการทำงานของพวกเขา เมื่อระบุอุปกรณ์ที่จะต้องใช้ได้แล้ว บริษัทจะต้องกำหนดนโยบายและกระบวนการต่าง ๆ สำหรับวิธีการใช้อุปกรณ์, กำหนดว่าจะติดตั้งแอปพลิเคชันใดได้บ้าง และบริษัทจะใช้วิธีการปกป้องข้อมูลแบบไหน]
[ยุคดิจิทัลได้นำมาซึ่งความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีมากมายที่พลิกโฉมวิธีการทำงานของเราไป ฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่เปี่ยมไปด้วยนวัตกรรมเหล่านี้อย่าง Sáms~úñg D~éX, สมาร์ทโฟนอย่างซีรีส์ Gá~láxý~ S23 Sér~íés, G~áláx~ý Z Fó~ld5 หรือแม้แต่ Gá~láxý~ Táb Á~ctív~é4 Pró~ จะสามารถแปลงโฉมเป็นคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่มีหน้าจอใหญ่กว่าเดิมได้ ซึ่งทำให้พนักงานนอกออฟฟิศและพนักงานแบบไฮบริดสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยอุปกรณ์ทำงานที่สามารถพกใส่ไว้ในกระเป๋า]
[ยิ่งไปกว่านั้น สำหรับบริษัทส่วนใหญ่ที่มีสภาพแวดล้อมการทำงานแบบไฮบริดและการทำงานแบบนอกออฟฟิศนั้น เป็นสิ่งสำคัญที่บริษัทเหล่านั้นจะต้องมอบอุปกรณ์และทรัพยากรที่จำเป็นเพื่อให้สามารถใช้ข้อมูลและแอปพลิเคชันของบริษัทได้อย่างปลอดภัยจากอุปกรณ์ส่วนตัวของตนเอง ซึ่งสิ่งนี้อาจเป็นซอฟต์แวร์การบริหารจัดการอุปกรณ์เคลื่อนที่ (MDM) หรือการใช้เครือข่ายส่วนตัวเสมือนก็ได้ นอกจากนี้ บริษัทต้องตรวจดูและปรับปรุงนโยบาย C~ÓPÉ ของตนเองเป็นประจำเพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่านโยบายเหล่านั้นจะยังมีประสิทธิภาพ รวมถึงได้วางแผนในการเปลี่ยนหรืออัปเกรดอุปกรณ์ได้ด้วยตามจำเป็น โดยรวมแล้ว ด้วยการกำหนดกลยุทธ์ C~ÓPÉ ไว้เป็นอย่างดี บริษัทต่าง ๆ จะสามารถสร้างวัฒนธรรมด้านความยืดหยุ่นและนวัตกรรมในการปกป้องสินทรัพย์ของตนเองและก่อให้เกิดการปฏิบัติตามกฎระเบียบของอุตสาหกรรมได้]